สวัสดีค่ะ เรามีคำถามปัญหาโลกแตกสำหรับเราตอนนี้มาปรึกษาค่ะ
เมื่อประมาณเดือนกุมภาปีที่แล้ว เราได้วางแพลนไปเที่ยวต่างประเทศแบบแบคแพคกับเพื่อนคนหนึ่ง
เพราะจะมีปิดเทอมระยะยาว 6 เดือน เพราะมีการเลื่อนเปิดเทอมมหาวิทยาลัยตามแบบอาเซียน
เราเลยชวนเพื่อนคนนี้ไปด้วยกัน เนื่องจากแม่เห็นว่าเรายังไม่โตมาก อยากให้มีคนไปด้วยดีกว่าไปคนเดียว (เราเป็นลูกสาวคนเดียว)
เพื่อนเราคนนี้จะเรียกเพื่อนได้ก็ไม่เต็มปาก เพราะเขาโตกว่าเรา เรารู้จักเขาในฐานะแฟนของรุ่นพี่คนหนึ่งสมัยเราเรียนม.ต้น
และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนนั้นสนิทกัน จนแม่เราก็รู้จักเธอคนนั้น ขอตั้งชื่อนามสมมตินางว่าสไมล์
ด้วยความสนิทกันตั้งแต่เราประมาณม.3จนตอนปีที่แล้วเราอยู่ปี 1 ก็เป็นเวลาราวๆ 4-5 ปีที่ติดต่อกันตลอด มีปัญหา มีอะไรก็ติดต่อกัน
ไม่ใช่เพื่อนห่างๆกัน แม่เราด้วยความที่เห็นว่านางสนิทกัน น่าจะไว้ใจได้ เลยเสนอว่า ไหนๆสไมล์ก็ทำงานได้เงินเดือนประมาณ 12000 (ถ้าจำไม่ผิด)
แล้วปกติก็อยู่อาศัยกินกับที่บ้าน ไม่ได้พักหอ บางครั้งจากเรื่องที่นางเล่าให้เราฟังนางก็ดูเหมือนจะยังขอแม่กินอยู่ด้วยซ้ำ
ถ้าแม่เราจ่ายค่าตั๋ว+ที่พักให้ก่อน (เพราะตอนนั้นเราเองอยากรีบจองล่วงหน้าเพราะจะได้ราคาถูก) ราคารวมประมาณ 25000 ให้ผ่อนเดือนละ 5000 จะไหวไหม? นางก็ ok ค่ะแม่ ได้ แม่เราก็เห็นว่า 5000 ผ่อน 5 เดือนก็จ่ายหมด พอดีกับช่วงที่จะไป แม่ก็ไม่ว่าอะไร
เวลาผ่านไป 1 เดือน นางจ่ายให้เรางวดแรก 3000 บาท เพราะนางอ้างว่าบริษัทนางเจ๊ง นางเลยตกงาน มีเงินจ่ายแค่นี้เป็นไรไหม
แม่เราใจดีค่ะ แม่เราบอกว่า ไม่เป็นไรนะ ทยอยจ่ายเรื่อยๆไม่ต้องก้อนใหญ่ แต่จ่ายมาให้หมดละกัน
ผ่านไปอีก 1-2 เดือน แม่เราก็เอ๊ะ ทำไมหายไป ไม่ยอมจ่าย เราเลยทวงนาง นางก็เสนอขายคอลลาเจนเรา .. เราก็หื้ม?? คอลลาเจนอะไร? แพงจังไม่สน
ละก็มีวันนึงช่วงใกล้ๆกันทักไลน์เรามาถามเราว่าว่างไหมมีธุระจะคุยด้วย จะโทรหา เราก็ดีใจสิ คิดว่าเห้ย จะคุยเรื่องเงินใช่ไหม รีบรับโทรศัพท์ สุดท้าย..นางโทรมาชวนเราทำธุรกิจเครือข่าย .. ซึ่ง .. อีธุรกิจนี้เราไม่ขอเรียกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งแย่ แต่แค่เราไม่ชอบ
ไม่ชอบที่ต้องไปหาขาต่อๆ บลาๆ คือง่ายๆ ขี้เกียจอ่ะ- -''
เราเพิ่งปี 1 วันๆสอนพิเศษหาค่าขนมกินได้ 2 ชม. 600 มันเยอะสำหรับเราแล้ว เราไม่อยากดิ้นรนเพื่อเงินอะไรมากมาย ไม่ได้อยากเป็นเศรษฐี
เพราะพ่อแม่เราเลี้ยงเรามาแบบโอเคแล้ว ไม่เคยสอนให้ทะเยอะทะยานอยากได้กระเป๋าแบรนด์หรู รถคันสวยอะไรมาก ขับโตโยต้า กระเป๋ากอป AAA+ คือฟินละ 55555 ถ้าความคิดเรามันทำให้หลายคนที่ support ธุรกิจเครือข่ายเราต้องขอโทษด้วยนะคะ
แต่นางก็รบเร้า ชวนเราไปคุยจนได้ โอเค..เราก็เซ็งๆมาบ่นกะแม่ ด้วยความที่แม่เรามีธุรกิจการขายของที่ประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งเขาชอบสินค้าบ้านเราอยู่แล้ว แม่เราก็เออ ช่วยๆหน่อย ของที่ซื้อๆมาก็เอาไปขายได้อยู่แล้วไม่เสียหาย
แม่สมัครแบบเปิดบิลลงทุนใหญ่ๆให้นางได้ค่าคอมมิชชั่นจากแม่เรา "เพื่อที่จะได้เอาค่าคอมมิชชั่นมาจ่ายคืนหนี้เรา" อันนี้คือจุดประสงค์หลัก
เพราะแม่ไม่ได้รวยตั้งแต่ต้น (แม่เราค่อนข้างรู้จักธุรกิจเครือข่ายดีนะคะ ไม่ได้สมัครเพราะหวังรวย แม่สมัครมาแล้วเกือบทุกบริษัท เพราะแม่เราซื้อมาก็เอาไปขาย ไม่ได้บริโภคเองจนหมด หรือถ้าบริโภคก็คือบริโภคเฉพาะตัวดีตัวเด็ดของบริษัทนั้น 5555)
สุดท้ายนางก็ได้เงินมาคืนเรา (ด้วยค่าคอมมิชชั่นที่ได้จากแม่เรา) ถ้าจำไม่ผิดอีกประมาณ 3000 แล้วก่อนหน้าที่เราจะบินไปตปท.นั้น
เราจะซื้อ pass ที่จะเดินทางได้อย่างสะดวกสบายตอบรับแพลนที่เราวางเที่ยวกันไว้ในแต่ละวัน ราคาเกือบๆหมื่น นางบอกว่า..ออกก่อนได้ไหม? เดี๋ยวคืนให้
ไม่มีตัง .. ค่ะ!!! มันเป็นสถานการณ์ไฟล์ทบังคับอย่างเดียวแล้วค่ะคุณขา จะบินอีกประมาณ 1-2อาทิตย์ ถ้าคุณไม่ซื้อ ฉันจะได้ซื้อไหมละคะ
อิฉันตอนนั้นหงุดหงิดมาก ไม่อยากซื้อให้ แต่ก็คิดแล้วว่าถ้าฉันไม่ซื้อ ไปเที่ยวคราวนี้มองหน้าไม่ติดแน่ๆ ไม่สนุกแน่ๆ ฉันก็ควักตังที่สอนพิเศน หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันซื้อทั้งของฉันและของนาง ยังจำโมเม้นตอนกดตังจากบัญชีตัวเองออกได้เลยค่ะ ตอนนั้นคือมือสั่นมาก เงิน 2-3 หมื่นสำหรับเด็กปี 1 อย่างเรามันเหลือแค่หลักพัน .. เรารู้สึกแบบ.. ตอนแรกตั้งใจไว้ว่า แม่ให้พอกเกตมันนี่เท่านี้ เราจะเอา 1 หมื่นซื้อ pass เรา ละเอาอีก 1 หมื่นแลกเป็นพอกเกตมันนี่เพิ่มเติมเอง แต่แบบมันผิดแผนแล้ว เราต้องเอาตังมาจ่ายให้เพื่อนร่วมทริปแทน โอเค..ไม่เป็นไร แม่ปลอบใจเรา
เราก็แบบ.. เห้อ กลัวทริปไม่สนุก บ่นกันแม่ กับเพื่อน บ่นกับทุกคน แต่ด้วยความเฉลียวใจบางอย่าง กลัวไม่ได้ตังคืน (เราอาจจะคิดมากไป)
เราเลยบอกนางว่า เห้ยๆ เรากลัวเกิดมีอะไรหายตอนไปญี่ปุ่น ละพาสพอร์ตหาย กลับประเทศไม่ได้ ส่งอีเมลหน้าพาสพอร์ตกับบัตรประชาชนให้หน่อย
จะได้ไม่มีปัญหา นางก็โอเค ส่งมาให้เราเป็นหลักฐานให้เราอุ่นใจเปราะนึง
พอไปเที่ยวกัน.. นางถามเราว่า พอกเกตมันนี่ 8000 บาทพอไหม .. คือ ณ ตอนนั้น เรานึกในใจเลยว่า .. ไม่พอฟอร์ชัวร์ นอกจากอดข้าว
เพราะตามแพลนไว้เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน 2 ที่ แค่ค่าอันนี้รวมกันก็น่าจะ 4000 ไม่รวมชอปปิ้งแล้ว แต่นางบอกนางไม่มีจริงๆ เงินมันออกระหว่างอยู่ที่นั่น
เดี๋ยวค่อยกดละกันนะ เราก็บอกโอเค ที่นั่นมันมี ATM กดได้อยู่แล้ว เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศนี้มารู้ดีว่าที่ไหนสามารถกดได้ กดไม่ได้บ้าง
การไปเที่ยวครั้งนี้ .. เราไม่ถือว่าแย่ แต่ถือว่าไม่สุด เพราะอะไรรู้ไหมคะ เราชอบชอปปิ้งค่ะ แน่นอน ชะนีไปเที่ยวประเทศแห่งแฟชั่น (อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าหลายคนคงเดาได้แล้วว่าเราไปเที่ยวประเทศอะไร) ขณะที่เราเดินซื้อๆๆๆๆๆ ในขณะที่อีกคนยืนมองแบบ.. จะซื้อดีป้ะ ยืนรอเซ็งๆเหมือนอยากซื้อแต่ต้องห้ามใจ ทำหน้าเหนื่อยใส่เรา ใครๆก็ต้องเซ็งป่ะคะ เราก็แบบ..เอิ่ม ไม่เป็นไร ถ้ายูไม่แฮปปี้เรารีบไปร้านที่ชอบละรีบกลับ โอเคจบ
มาเรื่องอาหารการกิน ..เราเป็นคนไม่มายการกินเท่าไร ไม่ใช่สายกินอยู่แล้ว กินเซเว่นก็ได้ อะไรข้างทางก็ได้ แต่มันก็มีบางวันที่เราซื้อของกิน
แต่นาง .. เขย่าโปรตีนอะไรสักอย่างที่เป็นโปรดักจากการทำธุรกิจของนางกินแทน เพราะนางไม่มีเงินซื้อข้าว .. ทุกครั้งที่เกิดกรณีแบบนั้น
แน่นอนว่าเรารู้สึก "ไม่อร่อย" รีบๆยัดละเดินเที่ยวต่อตลอด เหมือนมื้อนั้นกลายเป็นมื้อที่แบบ.. โอเค กินให้อิ่ม ไม่อยากอึดอัดโมเม้นนั้นนานๆ
และที่สำคัญคือ .. เราชอบกินปลาดิบ .. แต่ไปถึงประเทศนั้น อย่าว่าแต่ซูชิในเซเว่นเลย เราไม่ได้แตะสิ่งที่เรียกว่าซาชิมิ ซูชิ วาซาบิ สักอย่าง
อย่างหรูคือกินอาหารอิตาเลียนในร้านอาหารราคาแพงที่ตั้งใจจะไปกินตั้งแต่ตอนอยู่ไทย จนทุกวันนี้กลับไทยมายังเสียดาย 5555
และแล้วเวลาก็ผ่านไป ทริปนั้นจบไปตอนกรกฎาปีที่แล้ว เขาก็ทยอยคืน โอนให้ 1000 บ้าง 2000 บ้าง เรื่อยมา
จนช่วงปลายปีที่แล้วบอกตรงๆ จนค่ะ ไม่มีงานสอนพิเศษ แล้วขึ้นปี 2 ต้องเลี้ยงน้องรหัส ค่ายก็ต้องไป เงินต้องใช้ไปทวงกับเขา
เพราะเห็นว่าเขาอัพเดทชีวิตลงโซเชียลในลักษณะชีวิตดี๊ดี กินขนมร้าน(ค่อนข้าง)แพง อัพรูปไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ แต่ทำไม...???
ไม่เอาเงินไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตดี๊ดีมาคืน T___T เราอุตส่าห์ต่อรองว่าทยอยคืนเถอะนะ ขอสักพันก็ยังดี คือเราไม่มีกินแล้ว
เราอ้อนแม่เขา (แม่เขารับรู้เรื่องและให้เราติดต่อกับเขาโดยตรง เพราะพักหลังๆเราทักเขาไปเขาเริ่มพูดจาห้วนๆแข็งๆกับเรา ต่างจากแต่ก่อนนี่คุยเล่นตลอดไม่ว่าจะมีธุระหรือไม่มีธุระ) และแม่เขาก็ผลัดบ้าง จ่ายบ้างก็ไม่ว่าอะไร
เวลาผ่านจนวันนี้ เดือนมกราของปีใหม่ .. เราทวงเขาเมื่อสองสามวันก่อน วันที่มีปิกาจู๊มาเดินทั่วสยาม และนางก็มาเที่ยวจ้ะ
ซึ่งวันนั้นเราอยู่สยามพอดี ใจเราตอนนั้นอยากจะเดินไปหานางตามรูปที่อัพมากๆ อยากเจอแล้วถามตรงๆเลย
แต่แม่เรามีธุระ เราก็เลยทักไปว่าเงินที่เหลือเมื่อไรจะคืนอ่ะ (ตอนนี้ติดอยู่ 18000)
เขาก็บอกว่า ก็คุยกะแม่(ของนาง)ละไม่ใช่เหรอ ? ซึ่งเราถามแม่เขาไปในไลน์ว่าคุณแม่คะ เดือนนี้จะคืนเมื่อไร คืนเท่าไร ท่านก็บอกไม่รู้ โอนแล้วจะบอกจ้ะ
พอเราถามท่านว่าช่วงไหนเหรอคะ ท่านอ่านไม่ตอบ .. ละจะให้ทำไง ให้เด็กไปเซ้าซี้ผู้ใหญ่ต่อเหรอ? เราก็เลยมาคุยกะเจ้าตัว
แต่เจ้าตัวกลับพูดประหนึ่งว่าเราเป็นฝ่ายผิด .. อืม.. ก็รู้แหละว่าไม่อยากคุย - -'' อ้างว่าต้องกินต้องใช้ มีภารเหมือนกัน ถ้าไม่ใจเขาใจเราก็ไม่เข้าใจหรอก
คือเราก็สวนนางกลับว่า .. แล้วเธอล่ะรู้จักใจเขาใจเรารึยัง? เราเรียนมหาลัยอยู่ งานไม่ได้ทำนะคะ เงินค่าเทอมก็มี ค่าเทอมมหาลัยเราก็ไม่ใช่ว่าจะจ่ายถูก กินใช้เหมือนกัน ทุกวันนี้ต้องกินข้าว (หรือนางเห็นว่าเราต้องกินหญ้ากันนะ?) นางก็บอกแค่ ก็ไม่รู้นะคะ ถ้ายังไงจะคุยกะแม่ละกัน คุยไปก็ไม่รู้เรื่อง
้ถ้านางมีนางก็จ่าย ไม่ใช่ไม่จ่าย ยังไงจะคุยกะแม่ละกัน .. อืม... คุยแล้วก็หายไป หายต๋อม ไม่ตอบเรากลับมา
จนเรารู้สึกว่า.. เรารอนานมากแล้ว . เราเปิดเฟซบุคล่าสุด นางอัพรูปนางไปเที่ยวละมีแทคประมาณว่า ชีวิตดี๊ดี .. ลัลล้าจุงเบยยย วันก่อนก็พึ่งไปเที่ยวไม่ใช่หรือ? เราก็คุยกับแม่ว่า มีเงินไปเที่ยว ทำไมไม่มีเงินคืนเรากันล่ะ? เงินออกบ้านทีนึง ค่ารถ ค่ากิน ตีอย่างต่ำต้องเสียครั้งละ 100 (เอาต่ำสุดๆเลย) ถ้าเก็บตังตรงนี้ ทยอยคืนเราเดือนละ 1000 หนี้ก็หมดเร็วแล้ว ไม่มีใครเขามาทวงยิกๆ ให้รำคาญใจเล่นหรอก จริงไหม?
เราเลยอยากปรึกษา .. ว่าควรทำยังไงดีคะ? คือทางนี้คุยกับแม่เขาก็แล้ว คุยกับเจ้าตัวแล้ว แม้แต่แฟนเขาเราก็ไปคุยมาแล้ว ..
สิ่งที่ทำ คือ รอตังกลับมาได้แค่นั้นเหรอคะ? เราสามารถทำอะไรอย่างอื่นได้อีกไหม?
ใครที่พอจะรู้เรื่องกฎหมาย หรือ วิธีทวงหนี้ยังไงให้เขารีบคืนที ทุกวันนี้ทั้งพ่อ ทั้งแม่ เรา เพื่อนเรา ก็เหนื่อยหน่ายใจ เบื่อ และเครียดกันมากเลยค่ะ
คือรู้สึกแย่ที่ทำให้พ่อแม่ต้องมาหนักใจ เพราะเรา ถ้าเราไม่อยากไปเที่ยวชวนคนนั้นไปเที่ยวด้วยคงไม่เกิดปัญหาคาราคาซังแบบนี้ T_T
กระทู้นี้อาจจะยาวหน่อย แต่เป็นเรื่องที่อึดอัดใจ อยากระบาย และอยากได้รับคำปรึกษาจริงๆค่ะ
ขอบคุณพื้นที่เล็กๆตรงนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ปล. ถ้าเธอคนนั้นได้เข้ามาเห็น เรารู้นะว่าเธอรู้ว่าเราหมายถึงเธอ เพราะชื่อยูสมันบ่งบอกมากว่าเราเป็นใคร
รีบๆคืนเถอะ เราหนักใจมากแล้วจริงๆ . เห้อ
เพื่อนยืมเงินไปเกือบ 20000 จะ 1 ปี ยังไม่ได้คืน ควรทำยังไงดี?
เมื่อประมาณเดือนกุมภาปีที่แล้ว เราได้วางแพลนไปเที่ยวต่างประเทศแบบแบคแพคกับเพื่อนคนหนึ่ง
เพราะจะมีปิดเทอมระยะยาว 6 เดือน เพราะมีการเลื่อนเปิดเทอมมหาวิทยาลัยตามแบบอาเซียน
เราเลยชวนเพื่อนคนนี้ไปด้วยกัน เนื่องจากแม่เห็นว่าเรายังไม่โตมาก อยากให้มีคนไปด้วยดีกว่าไปคนเดียว (เราเป็นลูกสาวคนเดียว)
เพื่อนเราคนนี้จะเรียกเพื่อนได้ก็ไม่เต็มปาก เพราะเขาโตกว่าเรา เรารู้จักเขาในฐานะแฟนของรุ่นพี่คนหนึ่งสมัยเราเรียนม.ต้น
และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนนั้นสนิทกัน จนแม่เราก็รู้จักเธอคนนั้น ขอตั้งชื่อนามสมมตินางว่าสไมล์
ด้วยความสนิทกันตั้งแต่เราประมาณม.3จนตอนปีที่แล้วเราอยู่ปี 1 ก็เป็นเวลาราวๆ 4-5 ปีที่ติดต่อกันตลอด มีปัญหา มีอะไรก็ติดต่อกัน
ไม่ใช่เพื่อนห่างๆกัน แม่เราด้วยความที่เห็นว่านางสนิทกัน น่าจะไว้ใจได้ เลยเสนอว่า ไหนๆสไมล์ก็ทำงานได้เงินเดือนประมาณ 12000 (ถ้าจำไม่ผิด)
แล้วปกติก็อยู่อาศัยกินกับที่บ้าน ไม่ได้พักหอ บางครั้งจากเรื่องที่นางเล่าให้เราฟังนางก็ดูเหมือนจะยังขอแม่กินอยู่ด้วยซ้ำ
ถ้าแม่เราจ่ายค่าตั๋ว+ที่พักให้ก่อน (เพราะตอนนั้นเราเองอยากรีบจองล่วงหน้าเพราะจะได้ราคาถูก) ราคารวมประมาณ 25000 ให้ผ่อนเดือนละ 5000 จะไหวไหม? นางก็ ok ค่ะแม่ ได้ แม่เราก็เห็นว่า 5000 ผ่อน 5 เดือนก็จ่ายหมด พอดีกับช่วงที่จะไป แม่ก็ไม่ว่าอะไร
เวลาผ่านไป 1 เดือน นางจ่ายให้เรางวดแรก 3000 บาท เพราะนางอ้างว่าบริษัทนางเจ๊ง นางเลยตกงาน มีเงินจ่ายแค่นี้เป็นไรไหม
แม่เราใจดีค่ะ แม่เราบอกว่า ไม่เป็นไรนะ ทยอยจ่ายเรื่อยๆไม่ต้องก้อนใหญ่ แต่จ่ายมาให้หมดละกัน
ผ่านไปอีก 1-2 เดือน แม่เราก็เอ๊ะ ทำไมหายไป ไม่ยอมจ่าย เราเลยทวงนาง นางก็เสนอขายคอลลาเจนเรา .. เราก็หื้ม?? คอลลาเจนอะไร? แพงจังไม่สน
ละก็มีวันนึงช่วงใกล้ๆกันทักไลน์เรามาถามเราว่าว่างไหมมีธุระจะคุยด้วย จะโทรหา เราก็ดีใจสิ คิดว่าเห้ย จะคุยเรื่องเงินใช่ไหม รีบรับโทรศัพท์ สุดท้าย..นางโทรมาชวนเราทำธุรกิจเครือข่าย .. ซึ่ง .. อีธุรกิจนี้เราไม่ขอเรียกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งแย่ แต่แค่เราไม่ชอบ
ไม่ชอบที่ต้องไปหาขาต่อๆ บลาๆ คือง่ายๆ ขี้เกียจอ่ะ- -''
เราเพิ่งปี 1 วันๆสอนพิเศษหาค่าขนมกินได้ 2 ชม. 600 มันเยอะสำหรับเราแล้ว เราไม่อยากดิ้นรนเพื่อเงินอะไรมากมาย ไม่ได้อยากเป็นเศรษฐี
เพราะพ่อแม่เราเลี้ยงเรามาแบบโอเคแล้ว ไม่เคยสอนให้ทะเยอะทะยานอยากได้กระเป๋าแบรนด์หรู รถคันสวยอะไรมาก ขับโตโยต้า กระเป๋ากอป AAA+ คือฟินละ 55555 ถ้าความคิดเรามันทำให้หลายคนที่ support ธุรกิจเครือข่ายเราต้องขอโทษด้วยนะคะ
แต่นางก็รบเร้า ชวนเราไปคุยจนได้ โอเค..เราก็เซ็งๆมาบ่นกะแม่ ด้วยความที่แม่เรามีธุรกิจการขายของที่ประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งเขาชอบสินค้าบ้านเราอยู่แล้ว แม่เราก็เออ ช่วยๆหน่อย ของที่ซื้อๆมาก็เอาไปขายได้อยู่แล้วไม่เสียหาย
แม่สมัครแบบเปิดบิลลงทุนใหญ่ๆให้นางได้ค่าคอมมิชชั่นจากแม่เรา "เพื่อที่จะได้เอาค่าคอมมิชชั่นมาจ่ายคืนหนี้เรา" อันนี้คือจุดประสงค์หลัก
เพราะแม่ไม่ได้รวยตั้งแต่ต้น (แม่เราค่อนข้างรู้จักธุรกิจเครือข่ายดีนะคะ ไม่ได้สมัครเพราะหวังรวย แม่สมัครมาแล้วเกือบทุกบริษัท เพราะแม่เราซื้อมาก็เอาไปขาย ไม่ได้บริโภคเองจนหมด หรือถ้าบริโภคก็คือบริโภคเฉพาะตัวดีตัวเด็ดของบริษัทนั้น 5555)
สุดท้ายนางก็ได้เงินมาคืนเรา (ด้วยค่าคอมมิชชั่นที่ได้จากแม่เรา) ถ้าจำไม่ผิดอีกประมาณ 3000 แล้วก่อนหน้าที่เราจะบินไปตปท.นั้น
เราจะซื้อ pass ที่จะเดินทางได้อย่างสะดวกสบายตอบรับแพลนที่เราวางเที่ยวกันไว้ในแต่ละวัน ราคาเกือบๆหมื่น นางบอกว่า..ออกก่อนได้ไหม? เดี๋ยวคืนให้
ไม่มีตัง .. ค่ะ!!! มันเป็นสถานการณ์ไฟล์ทบังคับอย่างเดียวแล้วค่ะคุณขา จะบินอีกประมาณ 1-2อาทิตย์ ถ้าคุณไม่ซื้อ ฉันจะได้ซื้อไหมละคะ
อิฉันตอนนั้นหงุดหงิดมาก ไม่อยากซื้อให้ แต่ก็คิดแล้วว่าถ้าฉันไม่ซื้อ ไปเที่ยวคราวนี้มองหน้าไม่ติดแน่ๆ ไม่สนุกแน่ๆ ฉันก็ควักตังที่สอนพิเศน หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันซื้อทั้งของฉันและของนาง ยังจำโมเม้นตอนกดตังจากบัญชีตัวเองออกได้เลยค่ะ ตอนนั้นคือมือสั่นมาก เงิน 2-3 หมื่นสำหรับเด็กปี 1 อย่างเรามันเหลือแค่หลักพัน .. เรารู้สึกแบบ.. ตอนแรกตั้งใจไว้ว่า แม่ให้พอกเกตมันนี่เท่านี้ เราจะเอา 1 หมื่นซื้อ pass เรา ละเอาอีก 1 หมื่นแลกเป็นพอกเกตมันนี่เพิ่มเติมเอง แต่แบบมันผิดแผนแล้ว เราต้องเอาตังมาจ่ายให้เพื่อนร่วมทริปแทน โอเค..ไม่เป็นไร แม่ปลอบใจเรา
เราก็แบบ.. เห้อ กลัวทริปไม่สนุก บ่นกันแม่ กับเพื่อน บ่นกับทุกคน แต่ด้วยความเฉลียวใจบางอย่าง กลัวไม่ได้ตังคืน (เราอาจจะคิดมากไป)
เราเลยบอกนางว่า เห้ยๆ เรากลัวเกิดมีอะไรหายตอนไปญี่ปุ่น ละพาสพอร์ตหาย กลับประเทศไม่ได้ ส่งอีเมลหน้าพาสพอร์ตกับบัตรประชาชนให้หน่อย
จะได้ไม่มีปัญหา นางก็โอเค ส่งมาให้เราเป็นหลักฐานให้เราอุ่นใจเปราะนึง
พอไปเที่ยวกัน.. นางถามเราว่า พอกเกตมันนี่ 8000 บาทพอไหม .. คือ ณ ตอนนั้น เรานึกในใจเลยว่า .. ไม่พอฟอร์ชัวร์ นอกจากอดข้าว
เพราะตามแพลนไว้เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน 2 ที่ แค่ค่าอันนี้รวมกันก็น่าจะ 4000 ไม่รวมชอปปิ้งแล้ว แต่นางบอกนางไม่มีจริงๆ เงินมันออกระหว่างอยู่ที่นั่น
เดี๋ยวค่อยกดละกันนะ เราก็บอกโอเค ที่นั่นมันมี ATM กดได้อยู่แล้ว เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศนี้มารู้ดีว่าที่ไหนสามารถกดได้ กดไม่ได้บ้าง
การไปเที่ยวครั้งนี้ .. เราไม่ถือว่าแย่ แต่ถือว่าไม่สุด เพราะอะไรรู้ไหมคะ เราชอบชอปปิ้งค่ะ แน่นอน ชะนีไปเที่ยวประเทศแห่งแฟชั่น (อ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าหลายคนคงเดาได้แล้วว่าเราไปเที่ยวประเทศอะไร) ขณะที่เราเดินซื้อๆๆๆๆๆ ในขณะที่อีกคนยืนมองแบบ.. จะซื้อดีป้ะ ยืนรอเซ็งๆเหมือนอยากซื้อแต่ต้องห้ามใจ ทำหน้าเหนื่อยใส่เรา ใครๆก็ต้องเซ็งป่ะคะ เราก็แบบ..เอิ่ม ไม่เป็นไร ถ้ายูไม่แฮปปี้เรารีบไปร้านที่ชอบละรีบกลับ โอเคจบ
มาเรื่องอาหารการกิน ..เราเป็นคนไม่มายการกินเท่าไร ไม่ใช่สายกินอยู่แล้ว กินเซเว่นก็ได้ อะไรข้างทางก็ได้ แต่มันก็มีบางวันที่เราซื้อของกิน
แต่นาง .. เขย่าโปรตีนอะไรสักอย่างที่เป็นโปรดักจากการทำธุรกิจของนางกินแทน เพราะนางไม่มีเงินซื้อข้าว .. ทุกครั้งที่เกิดกรณีแบบนั้น
แน่นอนว่าเรารู้สึก "ไม่อร่อย" รีบๆยัดละเดินเที่ยวต่อตลอด เหมือนมื้อนั้นกลายเป็นมื้อที่แบบ.. โอเค กินให้อิ่ม ไม่อยากอึดอัดโมเม้นนั้นนานๆ
และที่สำคัญคือ .. เราชอบกินปลาดิบ .. แต่ไปถึงประเทศนั้น อย่าว่าแต่ซูชิในเซเว่นเลย เราไม่ได้แตะสิ่งที่เรียกว่าซาชิมิ ซูชิ วาซาบิ สักอย่าง
อย่างหรูคือกินอาหารอิตาเลียนในร้านอาหารราคาแพงที่ตั้งใจจะไปกินตั้งแต่ตอนอยู่ไทย จนทุกวันนี้กลับไทยมายังเสียดาย 5555
และแล้วเวลาก็ผ่านไป ทริปนั้นจบไปตอนกรกฎาปีที่แล้ว เขาก็ทยอยคืน โอนให้ 1000 บ้าง 2000 บ้าง เรื่อยมา
จนช่วงปลายปีที่แล้วบอกตรงๆ จนค่ะ ไม่มีงานสอนพิเศษ แล้วขึ้นปี 2 ต้องเลี้ยงน้องรหัส ค่ายก็ต้องไป เงินต้องใช้ไปทวงกับเขา
เพราะเห็นว่าเขาอัพเดทชีวิตลงโซเชียลในลักษณะชีวิตดี๊ดี กินขนมร้าน(ค่อนข้าง)แพง อัพรูปไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ แต่ทำไม...???
ไม่เอาเงินไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตดี๊ดีมาคืน T___T เราอุตส่าห์ต่อรองว่าทยอยคืนเถอะนะ ขอสักพันก็ยังดี คือเราไม่มีกินแล้ว
เราอ้อนแม่เขา (แม่เขารับรู้เรื่องและให้เราติดต่อกับเขาโดยตรง เพราะพักหลังๆเราทักเขาไปเขาเริ่มพูดจาห้วนๆแข็งๆกับเรา ต่างจากแต่ก่อนนี่คุยเล่นตลอดไม่ว่าจะมีธุระหรือไม่มีธุระ) และแม่เขาก็ผลัดบ้าง จ่ายบ้างก็ไม่ว่าอะไร
เวลาผ่านจนวันนี้ เดือนมกราของปีใหม่ .. เราทวงเขาเมื่อสองสามวันก่อน วันที่มีปิกาจู๊มาเดินทั่วสยาม และนางก็มาเที่ยวจ้ะ
ซึ่งวันนั้นเราอยู่สยามพอดี ใจเราตอนนั้นอยากจะเดินไปหานางตามรูปที่อัพมากๆ อยากเจอแล้วถามตรงๆเลย
แต่แม่เรามีธุระ เราก็เลยทักไปว่าเงินที่เหลือเมื่อไรจะคืนอ่ะ (ตอนนี้ติดอยู่ 18000)
เขาก็บอกว่า ก็คุยกะแม่(ของนาง)ละไม่ใช่เหรอ ? ซึ่งเราถามแม่เขาไปในไลน์ว่าคุณแม่คะ เดือนนี้จะคืนเมื่อไร คืนเท่าไร ท่านก็บอกไม่รู้ โอนแล้วจะบอกจ้ะ
พอเราถามท่านว่าช่วงไหนเหรอคะ ท่านอ่านไม่ตอบ .. ละจะให้ทำไง ให้เด็กไปเซ้าซี้ผู้ใหญ่ต่อเหรอ? เราก็เลยมาคุยกะเจ้าตัว
แต่เจ้าตัวกลับพูดประหนึ่งว่าเราเป็นฝ่ายผิด .. อืม.. ก็รู้แหละว่าไม่อยากคุย - -'' อ้างว่าต้องกินต้องใช้ มีภารเหมือนกัน ถ้าไม่ใจเขาใจเราก็ไม่เข้าใจหรอก
คือเราก็สวนนางกลับว่า .. แล้วเธอล่ะรู้จักใจเขาใจเรารึยัง? เราเรียนมหาลัยอยู่ งานไม่ได้ทำนะคะ เงินค่าเทอมก็มี ค่าเทอมมหาลัยเราก็ไม่ใช่ว่าจะจ่ายถูก กินใช้เหมือนกัน ทุกวันนี้ต้องกินข้าว (หรือนางเห็นว่าเราต้องกินหญ้ากันนะ?) นางก็บอกแค่ ก็ไม่รู้นะคะ ถ้ายังไงจะคุยกะแม่ละกัน คุยไปก็ไม่รู้เรื่อง
้ถ้านางมีนางก็จ่าย ไม่ใช่ไม่จ่าย ยังไงจะคุยกะแม่ละกัน .. อืม... คุยแล้วก็หายไป หายต๋อม ไม่ตอบเรากลับมา
จนเรารู้สึกว่า.. เรารอนานมากแล้ว . เราเปิดเฟซบุคล่าสุด นางอัพรูปนางไปเที่ยวละมีแทคประมาณว่า ชีวิตดี๊ดี .. ลัลล้าจุงเบยยย วันก่อนก็พึ่งไปเที่ยวไม่ใช่หรือ? เราก็คุยกับแม่ว่า มีเงินไปเที่ยว ทำไมไม่มีเงินคืนเรากันล่ะ? เงินออกบ้านทีนึง ค่ารถ ค่ากิน ตีอย่างต่ำต้องเสียครั้งละ 100 (เอาต่ำสุดๆเลย) ถ้าเก็บตังตรงนี้ ทยอยคืนเราเดือนละ 1000 หนี้ก็หมดเร็วแล้ว ไม่มีใครเขามาทวงยิกๆ ให้รำคาญใจเล่นหรอก จริงไหม?
เราเลยอยากปรึกษา .. ว่าควรทำยังไงดีคะ? คือทางนี้คุยกับแม่เขาก็แล้ว คุยกับเจ้าตัวแล้ว แม้แต่แฟนเขาเราก็ไปคุยมาแล้ว ..
สิ่งที่ทำ คือ รอตังกลับมาได้แค่นั้นเหรอคะ? เราสามารถทำอะไรอย่างอื่นได้อีกไหม?
ใครที่พอจะรู้เรื่องกฎหมาย หรือ วิธีทวงหนี้ยังไงให้เขารีบคืนที ทุกวันนี้ทั้งพ่อ ทั้งแม่ เรา เพื่อนเรา ก็เหนื่อยหน่ายใจ เบื่อ และเครียดกันมากเลยค่ะ
คือรู้สึกแย่ที่ทำให้พ่อแม่ต้องมาหนักใจ เพราะเรา ถ้าเราไม่อยากไปเที่ยวชวนคนนั้นไปเที่ยวด้วยคงไม่เกิดปัญหาคาราคาซังแบบนี้ T_T
กระทู้นี้อาจจะยาวหน่อย แต่เป็นเรื่องที่อึดอัดใจ อยากระบาย และอยากได้รับคำปรึกษาจริงๆค่ะ
ขอบคุณพื้นที่เล็กๆตรงนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ปล. ถ้าเธอคนนั้นได้เข้ามาเห็น เรารู้นะว่าเธอรู้ว่าเราหมายถึงเธอ เพราะชื่อยูสมันบ่งบอกมากว่าเราเป็นใคร
รีบๆคืนเถอะ เราหนักใจมากแล้วจริงๆ . เห้อ